วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กาก !!!!

โอ้ว..ไม่..อย่าพึ่งตกใจว่าจะเอาความกากมาเผยแพร่นะจ้ะ
เรื่องของเรื่องคือ ไปได้ กาก กาแฟ มาๆๆๆ
พี่ชายทำกาแฟสดกินที่บ้าน ดูหรูเด๊หล่า..ก็เลยเอาของเหลือมาให้คุณน้องเผื่อสิได้ประโยชน์
ก็ได้ไปศึกษาค้นคว้า "กูเกิ้ลช่วยกูด้วย"
เอามาฝากกันพอประมาณนะจ้ะ

“ผลัดเซลผิวเก่าออก ด้วย กากกาแฟสด”

http://www.caffesociety.co.uk

             “ช่วยผลัดเซลผิวเก่าออก เผยให้เห็นเซลผิวใหม่ที่ขาวเนียน ขับสารพิษออกจากผิว บำรุงผิว ลดริ้วรอย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ถ้าใช้นวดตามส่วนต่างๆของร่างกาย ก็จะเป็นการกระตุ้นไขมันใต้ชั้นผิวให้เกิดการแตกตัว ควบคุมการจัดเก็บไขมันใต้ชั้นผิวหนังให้เป็นระเบียบ ไม่เกิดเป็นผิวเปลือกส้ม หรือ Cellulite “ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ถ้าจะบอกว่า เป็นคุณสมบัติของสครับขัดผิวที่ทำมาจากกากกาแฟสด หลายคนคงแปลกใจระคนสงสัยว่า กากกาแฟสด ที่เหลือทิ้งจากกาแฟที่เราๆท่านๆรับประทานนี้ จะสามารถนำมาแปรรูปเป็น สครับกาแฟ แล้วมีคุณประโยชน์ขนาดนี้เชียวหรือ

             จริงๆแล้ว จากข้อมูลที่กล่าวถึงคุณสมบัติของกากกาแฟนั้น นับว่า กากกาแฟ เป็นแหล่งรวมของสาร antioxidant ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยขับสารพิษให้ออกจากผิว รวมทั้งเร่งให้เกิดการผลัดเซลผิวเก่าออกไป นอกจากนั้น ดังที่ทราบกันดีว่า ในกาแฟ มีสารคาเฟอีน ซึ่งเมื่อถูกนำมาแปรรูปเป็นสครับกาแฟแล้ว จะมีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นให้ไขมันใต้ชั้นผิวเกิดการแตกตัว ช่วยจัดการกับไขมันส่วนเกิน ป้องกันไม่ให้เกิดอาการผิวเปลือกส้ม หรือ Cellulite ที่ไม่พึงปรารถนา อีกด้วย 

"สำหรับวิธีการทำ"
ก็เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบ ได้แก่ 
กากกาแฟ เนื้อละเอียด, ขมิ้นผง, ไพลผง, น้ำผึ้ง, นมผง และเกลือบด ขั้นแรกให้นำกากกาแฟบด ไปนึ่งเพื่อฆ่าเชื้อ เสร็จแล้วจึงนำไปตากให้แห้ง จากนั้นนำขมิ้น, นมผง(บางท่านว่าเป็นนมสด หรือโยเกิร์ตก็ได้นะคะ), ไพล และน้ำผึ้ง มาผสมกับหัวครีมอาบน้ำ แล้วจึงนำกากกาแฟมาผสมลงไป ใส่เกลือ คนให้เข้ากันจนได้เนื้อครีมสครับ แต่งกลิ่นตามใจชอบ และบรรจุลงในกระปุก (เข้าตู้เย็นไว้ก่อนก็ได้) 
ส่วนเวลานำมาใช้ 
ให้นำสครับกาแฟมาขัดผิวหลังอาบน้ำ หรือใช้ขัดผิวแทนการอาบน้ำด้วยสบู่เลยก็ได้ 
เมื่อขัดเสร็จให้ล้างด้วยน้ำสะอาด ควรใช้สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง 
ไม่แนะนำให้ใช้กับใบหน้านะคะ เพราะบางคนใช้แล้วสิวขึ้น
ครีมที่ผสมนมสดนี้จะไม่ข้นเหมือนผสมนมผง หรือโยเกิต
คาดว่าช่วงที่เหมาะสำหรับสครับกาแฟควร ขัดในตอนเช้าค่ะ เพราะกาแฟจะได้กระตุ้นผิวหนังของเราให้ตื่น แว๊กกกกกก !! กล้าเล่นนะ 555+

ข้อควรระวัง...
1. เวลาล้างสครับออก อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าสครับแบบอื่นนิดนึง เพราะเม็ดกากกาแฟมันชอบหลงเหลืออยู่ทุกทีเลย ตามซอกรักแร้ ขาหนีบ จะต้องล้างแบบให้ถ้วนถี่นิดนึง ถ้าล้างแบบผ่านๆ รับรองไม่สะอาดค่ะ


2. ใครที่มีกากกาแฟมากเกินกว่าที่จะใช้ครั้งเดียวหมด กรุณานำกากกาแฟที่เหลือไปตากแดดนะคะ ตากให้แห้งสนิทเลย แล้วนำเข้าตู้เย็นไว้ จะใช้เมื่อไรค่อยนำมาผสมส่วนผสมข้างต้น โดยไม่จำเป็นต้องผสมน้ำเปล่าเพื่อให้เปียกอีก ถ้าหากเก็บกากกาแฟโดยไม่ตากแห้ง รับรองว่าราขึ้นค่ะ..

ใช้กากกาแฟขัดผิวใสปิ๊งจริงหร๊าาาา!!!!

(ข่าวจาก เดลินิวส์ วันอาทิตย์ ที่ 09 พฤษภาคม 2553)


เห็นสาว ๆ สั่งกาแฟสดมาดื่มแต่บางคนขอผงกาแฟจากคนขาย ติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยซึ่งผู้ขายก็ให้ฟรี โดยไม่คิดเงินสอบถามได้ความว่าเพื่อนำไปขัดหน้า ขัดผิวกาย โดยจะผสมกับน้ำผึ้ง ขมิ้น ไพล โลชั่น นมผง หรือโยเกิร์ต แล้วแต่สูตรใครสูตรมัน เพราะมีความเชื่อว่า การนำไปขัดหน้า ขัดผิวพรรณ จะทำให้ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา สะอาดหมดจด ขาวผ่องเป็นยองใย ไร้สิว ฝ้า พอลงมือค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ก็พบว่า ข้อมูลในเรื่องนี้มีการนำเสนออย่างแพร่ หลาย ถึงขนาดบางคนทำเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้จึงมาพูดคุยกับ รศ.พญ. พรทิพย์ ภูวบัณฑิตสิน สาขาจิตวิทยา (ผิวหนัง) ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหา วิทยาลัย เพื่อหาคำตอบในเรื่องนี้
รศ.พญ.พรทิพย์ กล่าวว่า เมล็ดกาแฟที่คั่วแล้วก็กลายเป็นถ่านคาร์บอนสีดำ ๆ ซึ่งบางคนอาจจะมีความเชื่อว่าน่าจะดูดซับสิ่งสกปรกได้ เห็นได้จากเวลาเรากรองน้ำจะมีการใช้ถ่านในกระบวนการกรองด้วยถ่าน ก็จะเป็นตัวดูดซับสิ่งปลอม ๆ ต่าง ๆ ออกไป หรือในทางการแพทย์ได้มีการนำถ่านชนิดหนึ่ง มาให้คนไข้ผิวหนังรับประทาน เพื่อลดอาการคันจากไตวาย เนื่องจากมีความเชื่อว่าอาจจะมีสารบางอย่างที่ทำให้เกิดอาการคัน ถ่านดังกล่าวก็จะไปช่วยดูดซับสิ่งไม่ดีที่ทำให้เกิดอาการ คันออกไป นอกจากนี้ยังมีการนำกาแฟมาใช้ในการดีท็อกซ์ ลำไส้ ด้วยการละลายน้ำสวนเข้าไป เพื่อให้กาแฟไปดูดซับสิ่งที่ไม่ดีในร่างกายออกมา
เพราะฉะนั้นการที่คนเรานำผงถ่านของกาแฟคั่วมาขัดใบหน้า หรือขัดผิวพรรณ เพื่อความสวยความงามนั้น หลายคนก็คงจะคิดว่าที่บริเวณใบหน้าอาจจะมีสิ่งสกปรกอยู่ ดังนั้นหากใช้ผงถ่านจากกาแฟไปดูดซับออกคงจะดีขึ้น
ส่วนที่บอกว่าจะทำให้ใบหน้า หรือผิวพรรณขาวเนียนขึ้นนั้น คงไม่จริง และเป็นไปไม่ได้ ผงถ่านอาจแค่ไปดูดซับสิ่งสกปรกออกเท่านั้น ความจริงหน้าของคนเราสะอาดอยู่แล้ว ไม่ถึงขั้นต้องไปดูดซับสิ่งสกปรกอะไรออกมา ดังนั้นการนำผงกาแฟมาขัดหน้า จึงคิดว่าเป็นเพียงการทำตามกระแสเท่านั้น
กรณีที่บางคนมีการนำไปผสมกับน้ำผึ้ง นมผง หรือสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ก่อนนำมาพอกหน้านั้น ก็คงเป็นการคิดสูตรกันไป อย่างน้ำผึ้ง หรือนมผง ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง ส่วนผงถ่านก็คงจะไปดูดซับน้ำมันที่บริเวณผิวหนังที่มีมากเกินออกมา แต่คงไม่ไปทำให้หน้าขาวหรอก
สำหรับสมุนไพรต่าง ๆ อย่าง ผงขมิ้น  ไพล หรือโยเกิร์ต เพื่อนำมาขัด หรือพอกหน้านั้น รศ.พญ.พรทิพย์ กล่าวว่า คนก็คงคิดว่า เมื่อสมุนไพรเหล่านี้มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และสมุนไพรบางตัว ก็มีการนำมาใช้กับผิวหนังอยู่แล้วก็เลยนำมาเป็นส่วนผสม
อย่างโยเกิร์ตก็มีกรดบางอย่างในนม ผู้ที่นำมาผสมก็คงจะหวังผลว่า น่าจะทำให้ใบหน้า และผิวพรรณนุ่มนวลขึ้น หรือบางคนผสมกับโลชั่นก็คงหวังผลว่า น้ำมัน หรือโลชั่น จะช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้นขึ้น
หมอคิดว่า คนที่นำผงถ่านกาแฟมาขัดหน้า ขัดผิวพรรณ คงคิดว่า การขัดหน้าก็เป็นเหมือนการขัดผิวภายนอกเบา ๆ คงจะช่วยทำให้ผิวที่มันไม่ลื่น รู้สึกว่าลื่นขึ้น เนื่องจากมีการขัดผิวบางส่วนออกไป
มองแล้วในยุคนี้ก็ถือ เป็นเรื่องธรรมดา เพราะอย่างเมืองนอกก็มีเม็ดสครับ ที่ผสมในโฟมล้างหน้าหรือสบู่ซึ่งเป็นสารที่ สังเคราะห์ขึ้น คนก็เลยคิดว่าใช้ถ่านก็ได้ ทำไมต้องไปใช้สิ่งที่สังเคราะห์ขึ้นมา ถ้าหากจะใช้ทรายก็อาจจะหยาบจนเกินไป ผงถ่านกาแฟอาจจะดูละเอียดกว่า
ถามว่ามีการนำผงถ่านกาแฟมาใช้กับใบหน้า หรือผิวพรรณ มีโทษหรือมีข้อเสียหรือไม่ คิดว่า มันก็คงไม่มีโทษอะไร อีกทั้งได้มาฟรีด้วย  ก็ถือว่า เป็นการขัดผิวอย่างหนึ่ง โดยใช้สิ่งที่มีอยู่ตามธรรมชาติ แต่การนำผงถ่านกาแฟมาผสมกับสิ่งต่าง ๆ อาจจะทำให้เกิดการแพ้ได้ในบางราย
สรุปว่า การขัดหน้าด้วยผงถ่านกาแฟคงไม่มีอันตรายอะไร ส่วนผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไรบอกไม่ได้ รู้แต่ว่าบางคนหากได้ทำอะไรกับใบหน้าตัวเองแล้วมีความสุข สบายใจ ก็อาจคิดไปเองว่าใบหน้า หรือผิวพรรณดีขึ้น ก็เป็นเรื่องของแต่ละคนไป
ที่มา : www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=532&contentID=63136




ได้ผลแค่ไหน เอามาบอกกันบ้างนะคะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น